วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

                             กระบวนการทางวิทยาศาสตร์





                การดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะต้องมีการกำหนดขั้นตอน  อย่างเป็นลำดับตั้งแต่ต้นจนแล้วเสร็จตามจุดประสงค์ที่กำหนด
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์  จึงเป็นแนวทางการดำเนินการโดยใช้ทักษะวิทยาศาสตร์ใช้ในการจัดการ  ซึ่งมีลำดับขั้นตอน 5 ขั้นตอน  ดังนี้

1. การกำหนดปัญหา
2. การตั้งสมมติฐาน
3. การทดลองและรวบรวมข้อมูล
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
5. การสรุปผล

ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดปัญหา

 เป็นการกำหนดหัวเรื่องที่จะศึกษาหรือปฏิบัติการแก้ปัญหาเป็น
ปัญหาที่ได้มาจากการสังเกต  จากข้อสงสัยในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่พบเห็น  เช่น ทำไมต้นไม้ที่ปลูกไว้ใบเหี่ยวเฉา  ปัญหามีหนอนมาเจาะกิ่งมะม่วงแก้ไขได้อย่างไร  ปลากัดขยายพันธุ์ได้อย่างไร

ตัวอย่างการกำหนดปัญหา

ป่าไม้หลายแห่งถูกทำลายอยู่ในสภาพที่ไม่สมดุล  หน้าดินเกิดการพังทลาย ไม่มีต้นไม้ หรือวัชพืชหญ้าปกคลุมดิน  เมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนจะกัดเซาะหน้าดินไปกับกระแสน้ำแต่บริเวณพื้นที่มีวัชพืชและหญ้าปกคลุมดินจะช่วยดูดซับน้ำฝนและลดอัตราการไหลของน้ำ  ดังนั้นผู้ดำเนินการจึงสนใจอยากทราบว่า  อัตราการไหลของน้ำจะขึ้นอยู่กับสิ่งที่ช่วยดูดซับน้ำหรือไม่  โดยทดลองใช้แผ่นใยขัดเพื่อทดสอบอัตราการไหลของน้ำ  จึงจัดทำโครงงาน การทดลอง  การลดอัตราไหลของน้ำโดยใช้แผ่นใยขัด

ขั้นตอนที่ 2   การตั้งสมมติฐาน

และการกำหนดตัวแปรเป็นการคาดคะเนคำตอบของปัญหาใดปัญหาหนึ่งอย่างมีเหตุผล  โดยอาศัยข้อมูลจากการสังเกต  การศึกษาจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง  การพบผู้รู้ในเรื่องนั้น ๆ ฯลฯ  และกำหนดตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการทดลอง  ได้แก่  ตัวแปรต้น  ตัวแปรตาม  ตัวแปรควบคุม

สมมติฐาน  ตัวอย่าง

แผ่นใยขดช่วยลดอัตราการไหลของน้ำ  (ทำให้น้ำไหลช้าลง)
ตัวแปร
ตัวแปรต้น คือ แผ่นใยขัด
ตัวแปรตาม คือ ปริมาณน้ำที่ไหล
ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาณน้ำที่เทหรือรด

ขั้นตอนที่ 3  การทดลองและรวบรวมข้อมูล  

เป็นการปฏิบัติการทดลองค้นหาความจริงให้สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ในขั้นตอนการตั้งสมมติฐาน  (ขั้นตอนที่ 2 ) และรวบรวมข้อมูลจากการทดลองหรือปฏิบัติการนั้นอย่างเป็นระบบ

ตัวอย่างการออกแบบการทดลอง

วัสดุอุปกรณ์ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ โดยจัดเตรียม กระบะ จำนวน 2 กระบะ
- ทรายสำหรับใส่กระบะทั้ง 2  ให้มีปริมาณเท่า ๆ กัน
- กิ่งไม้จำลอง  สำหรับปักในกระบะทั้ง 2  จำนวนเท่า ๆ กัน
- แผ่นใยขัด  สำหรับปูบนพื้นทรายกระบะใดกระบะหนึ่ง
- น้ำ  สำหรับเทลงในกระบะทั้ง 2 กระบะปริมาณเท่า ๆ กัน

ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมติฐาน

เป็นการนำข้อมูลที่รวบรวมได้จากขั้นตอน
การทดลองและรวบรวมข้อมูล  (ขั้นตอนที่ 3 ) มาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อนำมาอธิบายและตรวจสอบกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ในขั้นตอนการตั้งสมมติฐาน (ขั้นตอนที่ 2) ถ้าผลการวิเคราะห์ไม่สอดคล้องกับสมมติฐาน  สรุปได้ว่าสมมติฐานนั้นไม่ถูกต้อง   ถ้าผลวิเคราะห์สอดคล้องกับสมมติฐาน ตรวจสอบหลายครั้งได้ผลเหมือนเดิมก็สรุปได้ว่าสมมติฐานและการทดลองนั้นเป็นจริง สามารถนำไปอ้างอิงหรือเป็นทฤษฎีต่อไปนี้

ตัวอย่าง

-วิธีการทดลอง นำทรายใส่กระบะทั้ง 2 ให้มีปริมาณเท่า ๆ กัน ทำเป็นพื้นลาดเอียง
กระบะที่ 1  วางแผ่นใยขัดในกระบะทรายแล้วปักกิ่งไม้จำลอง
กระบะที่ 2  ปักกิ่งไม้จำลองโดยไม่มีแผ่นใยขัด
ทดลองเทน้ำจากฝักบัวที่มีปริมาณน้ำเท่า ๆ กัน พร้อม ๆ กัน ทั้ง 2 กระบะ การทดลองควรทดลองมากกว่า 1 ครั้ง  เพื่อให้ได้ผลการทดลองที่มีความน่าเชื่อถือ
-ผลการทดลอง
กระบะที่ 1 (มีแผ่นใยขัด) น้ำ ที่ไหลลงมาในกระบะ  จะไหลอย่างช้า ๆ เหลือปริมาณน้อย  พื้นทรายไม่พัง  กิ่งไม้จำลองไม่ล้ม
กระบะที่ 2 (ไม่มีแผ่นใยขัด)  น้ำที่ไหลลงสู่พื้นกระบะจะไหลอย่างรวดเร็ว พร้อมพัดพาเอากิ่งไม้จำลองมาด้วย  พื้นทรายพังทลายจำนวนมาก

ขั้นตอนที่ 5  การสรุปผล  

เป็นการสรุปผลการศึกษา  การทดลอง  หรือการปฏิบัติการนั้น ๆ โดยอาศัยข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลจากขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูล (ขั้นตอนที่ 4 ) เป็นหลัก

สรุปผลการทดลอง
จากการทดลองสรุปได้ว่าแผ่นใยขัดมีผลต่อการไหลของน้ำ  ทำให้น้ำไหลได้อย่างช้าลง  รวมทั้งช่วยให้กิ่งไม้จำลองยึดติดกับทรายในกระบะได้  ซึ่งต่างจากกระบะที่มีแผ่นใยขัดที่น้ำไหลอย่างรวดเร็ว ละพัดเอากิ่งไม้และทรายลงไปด้วย
เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้น  5  ขั้นตอนนี้แล้ว  ผู้ดำเนินการต้องจัดทำเป็นเอกสารรายงานการศึกษา การทดลองหรือการปฏิบัติการนั้นเพื่อเผยแพร่ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น